1. เบี้ยประกัน
2. การบริการ
3. การต่อประกันรถยนต์ที่เดิม
4. การต่อประกันรถยนต์ที่ใหม่
5. ขั้นตอนการต่อประกันรถยนต์
กรุงเทพประกันชีวิตสะพานควาย
สะพานควายประกันรถยนต์ ชั้น 1
สะพานควายประกันชั้น 1
สินมั่นคงประกันภัยสะพานควาย
ต่อประกันรถยนต์สะพานควาย
สะพานควายประกันชั้น 2
สะพานควายประกันรถยนต์ที่ไหนดี
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์วิริยะประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์กรุงเทพประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์ไทยวิวัฒน์
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์สินมั่นคง
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์กรุงไทยพานิชประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์ไทยศรี
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์อลิอันซ์
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์คุ้มภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์ไทยเศรษฐฯ
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์อาคเนย์ประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์เคเอสเค ประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์นวกิจประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์อินทรประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์เจ้าพระยาประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์บริษัทกลางฯ
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์เอเชียประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์ชับบ์สามัคคีประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์แปซิฟิค ครอส
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์เอ็มเอสไอจี
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์โตเกียวมารีน
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์ฟีนิกซ์
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์เอราวัณ
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์ทิพยประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์เมืองไทยประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์แอกซ่าประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์เทเวศประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์แอลเอ็มจี ประกันภัย
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์ไทยไพบูลย์
สะพานควายต่อประกันภัยรถยนต์สินทรัพย์ประกันภัย
ขั้นตอนการต่อประกันรถยนต์
1. ก่อนหมดอายุประกันประมาณ 1-2 เดือน หรือเมื่อได้รับหนังสือแจ้งยอดให้ไปชำระเบี้ยประกัน ให้ติดต่อสอบถามบริษัทประกันว่าเบี้ยประกันราคาเท่าไร
ให้ความคุ้มครองอะไร และเท่าไรบ้าง
2. นำข้อมูลที่ได้มาคำนวณตามตัวอย่างที่ยกมาข้างบนว่าส่วนลดตรงตามเปอร์เซ็นต์ที่แจ้งหรือเปล่ามีส่วนต่างอยู่เท่าไหร่ ถ้าใกล้เคียงกันหรือห่างกันไม่เกิน 2-300บาท
ก็ถือว่าพอยอมรับได้
3. โทรฯสอบถามบริษัทประกันอื่นว่ารถเรายี่ห้อนี้/ปีนี้ ถ้าต้องการการคุ้มครองแบบเดียวกัน (กับที่บริษัทเดิมเสนอความคุ้มครองให้) ต้องจ่ายเบี้ยประกันเท่าไหร่
4. ถ้าพบว่าความคุ้มครองเท่ากันแต่ราคาถูกกว่าหรือให้ความคุ้มครองมากกว่าในราคาเท่ากัน แนะนำให้เปลี่ยนบริษัทประกันแสดงว่า
บริษัทที่ทำอยู่เริ่มมีอะไรที่หมกเม็ดแล้วและในปีต่อๆ ไปเราก็จะเจอเช่นเดิมอีก
5. ถ้าเกิดมีการเคลมเกิดขึ้นอาจจะต้องจ่ายเบี้ยเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นเช่น ถ้าเรียกร้องค่าเสียหายเกิน 200% ของเบี้ยในปีนั้น ในปีต่อไปต้องจ่ายเบี้ยเพิ่มขึ้น
จากเบี้ยที่กำหนดโดยไม่ทราบที่มา) เป็นต้น อันนี้แนะนำให้เปลี่ยนบริษัทประกันทันทีไม่ต้องลังเล ปล่อยให้บริษัทประกันเดิม